ละอองเกสร - เซอร์นิติน พอลลิติน
ดอกไม้ทุกๆ ดอกจะมีละอองเกสร ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตัว แตกต่างกันไป ตามขนาด น้ําหนัก รูปร่าง รูปทรง และ ความขรุขระของผิวละอองเกสร ซึ่งความแตกต่างนี้ก็ คล้ายกับลายนิ้วมือ ซึ่งมีความแตกต่างกันออกไป นักวิจัย ซึ่งวิจัยเกี่ยวกับละอองเกสร ชาวสวีเดนที่มีชื่อเสียง เช่น เลนมาร์ค วอน โพราท และ กันนาร์ อาร์คมัน ได้ทําการ วิจัยเกี่ยวกับละอองเกสรดอกไม้ไว้ด้วย
นักวิจัยสามารถแยกเมล็ดละอองเกสรจากตัวอย่าง ของดิน โดยใช้กรดเข้มข้นซึ่งจะแยกส่วนที่เป็นละออง เกสรออกมา โดยที่เปลือกของละอองเกสรไม่ถูกทําลาย และนําละอองเกสรมาตรวจสอบเพื่อจําแนกชนิดของ พืช ดินที่นํามาวิเคราะห์จะบอกได้ถึงความเป็นมาตาม พืช ดิน ธรรมชาติ เพื่อละอองเกสรถูกฝังอยู่ในดินในเวลาที่ผ่าน มานับจากอดีต สามารถกําหนดเวลาได้ค่อนข้างถูกต้อง แม่นยํา
เมล็ดละอองเกสรที่นํามาสกัดเป็นสารสกัดเซอร์นิติน มีขนาดเล็กมาก ต้องใช้ถึง 100 เมล็ด มาเรียงต่อกัน จึงจะ ได้ความยาว 1 มิลลิเมตร (ดอก Forget-me-not ต้องใช้ 300 เมล็ด มาเรียงต่อกันจึงจะมีความยาว 1 มิลลิเมตร)
นักวิจัยละอองเกสรจําแนกรายละเอียดความแตกต่างของ ละอองเกสรดอกไม้ ซึ่งบริษัท เซอร์เนลก็สามารถจําแนก ความแตกต่างนี้ได้เช่นกันเพื่อควบคุมให้ได้ละอองเกสรชนิดเดี่ยวกัน โดยเครื่องมือที่มีอยู่ผ่านการสดทองทางห้องทดลองของนักวิจัยละอองเกสร ที่สต็อกโฮม โดยต้อง แสดงผลว่า จะมีละอองเกสรอื่นได้ไม่เกิน 1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสิ่งที่ปะปนอยู่นี้เป็นละอองเกสรอื่น หรือผงฝุ่นเท่านั้น
การใช้วัตถุดิบที่เป้นชนิดเดี่ยวกันนี้สิ่งที่จำเป้นมากเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพทางเภสัชวิทยา เซอร์นิตินต้องควบคุมในด้านของการใช้และผลข้างเคียง เราทราบอยู่แล้วว่าละองเกสร ประอบไปด้วยสารชนิดต่างๆ อาจมีผลข้างเคียงและเกิดอาการแพ้ได้จึงต้องทำการตรวจสอบละอองเกสร และเปรียบเทียบผลของสารสกัดเซอร์นิติน จากละอองเกสรดอกไม้ก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าสารสกัดเซอร์นิติน ไม่มีอันตราย สามารถใช้ติดต่อกันได้ในเวลานานโดยไม่มีความเสี่ยงซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากและเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญมากที่สุด ก่อนที่จะนำมาผลิตให้คนบริโภค
ดังนั้น จึงอยากจะชี้ให้เห็นถึงการใช้ละอองเกสรที่นำมาบริโภคกันทั่วไปซึ่งละอองเกสรดังกล่าวต้องถูกนำมาสกัดกอ่นที่จะนำมาบริโภค
เนื่องจากผึ้งจะเก็บละอองเกสรดอกไม้ไว้ให้ตัวอ่อนในรัง เพื่อป้องกันการถูกทำร้าย ดังน้นจึงมีผู้นำมันมาขายซึ่งมีราคาตามท้องตลาด โดยวิธีการดังนี้
โดยการขูดที่ปากทางเข้าของรังผึ้ง เมื่อผึ้งเข้าไป ข้างในละอองเกสรที่เก็บมาได้ก็จะถูกขูดออก และหล่น ลงไปในช่องเล็กๆ ซึ่งผึ้งไม่สามารถนํากลับขึ้นมาได้อีก ละอองเกสรดังกล่าวที่ผึ้งเก็บมาแล้วนั้น มีความชื้นสูง ทําให้แบคทีเรียและเชื้อราเจริญเติบโตได้ดี โดยเฉพาะ ที่ที่มีอากาศอบอุ่น แมลงหลายชนิดใช้ที่เก็บละอองเกสร เป็นที่สําหรับวางไข่ เราพบว่าไม่ควรให้คนนํามาบริโภค แต่ในความเป็นจริงก็มีผู้ค้าที่ไม่มีจริยธรรม นําละออง เกสรมาอัดเม็ด และขายให้กับผู้บริโภค แน่นอนจะทําให้
บคุมและตรวจ วิเคราะห์วัตถุ หรือผลิตภัณฑ์ที่นํามาขาย และสกัดกั้น ตลาดดังกล่าวอย่างเข้มงวด